Aroo! สวัสดีครับผู้ที่กำลังมองหาความท้าทายใหม่ๆ ให้ชีวิต หลังจากที่ผมได้เอาตัวเองไปคลุกฝุ่นลุยโคลนในงาน Spartan Race Thailand ที่หัวหินมาหมาดๆ บอกเลยว่ามันส์หยดติ๋ง! วันนี้เลยอยากมาเม้าท์มอย เอ้ย! มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันแบบหมดเปลือก เผื่อใครกำลังเล็งๆ อยู่จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น ไปดูกันเลย!

Spartan Race: Fire Jump

จุดเริ่มต้นความบ้า ทำไมต้อง Spartan Race?

เรื่องของเรื่องคือ ปกติผมก็เป็นหนุ่มออฟฟิศธรรมดาๆ ที่สิงสถิตอยู่แต่ในยิม เข้าฟิตเนสคนเดียวเงียบๆ อาทิตย์ละ 3 วันตามประสาคนรักสุขภาพ (เหรอ?) แล้ววันดีคืนดี ไถ Facebook เล่นเพลินๆ ดันเจอโพสต์ Spartan Race เปิดขายตั๋ว Early Bird ลด 10% เท่านั้นแหละครับ...ต่อมความอยากลองของมันก็ทำงานทันที!

แวบแรกที่เห็นคือ "ราคาน่าโดนว่ะ" พอลองกดเข้าไปดูด่านต่างๆ เท่านั้นแหละ ความมั่นใจ (แบบผิดๆ) ก็พุ่งขึ้นมา "ดูทรงแล้ว… หมูสิวะ!" ฮ่าๆๆ ในหัวตอนนั้นคิดแค่ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะเอาผลลัพธ์จากการยกเหล็กของเรา ออกมาประกาศศักดาให้โลกภายนอกได้เห็นซะที! ว่า "กูก็เทพนะเว้ย!" บวกกับฟิตเนสคนเดียวมันเริ่มจะเบื่อๆ อยากหาอะไรมากระตุ้นต่อมความท้าทายในชีวิตบ้าง

เท่านั้นแหละครับ...ผมกดสมัคร Spartan Race ระยะ Sprint 5K ที่หัวหินไปแบบไม่คิดชีวิต โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าจะซ้อมยังไงต่อ! คิดในใจแค่ว่า "สบายๆ ลุยเว้ยยย!"

ซ้อมยังไงให้รอดตาย? เปิดคัมภีร์ฝึกฉบับมือใหม่สายมั่ว

หลังจากจ่ายเงินไปแบบไวแสง...สติก็กลับมา "ชิบหายละ! แล้วจะซ้อมยังไงวะ?" ไม่เคยลงแข่งอะไรแบบนี้มาก่อนเลยซักนิด เลยต้องไปพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างกลุ่ม Facebook Spartan Race Thailand เพื่อขอแนวทางจากรุ่นพี่ๆ

ในกลุ่มก็ใจดีกันมากครับ แนะนำท่ายงท่ายกกันเต็มไปหมด พร้อมกับชี้เป้าไปที่ The Movement Playground (MPG) แถวพระโขนง ว่าเป็นเหมือน "สำนักฝึกวิทยายุทธ์" ของชาว OCR (Obstacle Race) โดยเฉพาะ

ไม่รอช้าครับ ผมรีบบึ่งไปคุยกับทาง MPG ทันที ซึ่งทีมงานต้อนรับดีมาก แถมยังชวนเข้าทีมลงแข่งด้วยกันอีก โห...ดีกว่าไปวิ่งเปรี้ยวคนเดียวในสนามเยอะ! เลยตัดสินใจลงคอร์สกับเขาไปเลยแบบไม่ต้องคิด

พอได้ลองฝึกเท่านั้นแหละครับ...ถึงกับบางอ้อเลยว่าร่างกายที่เราคิดว่าฟิตนักหนา มันยังขาดอีกเยอะ! โดยเฉพาะพวกเทคนิคการผ่านด่านต่างๆ ที่ถ้าไม่เรียนก็คงไปยืนเอ๋อหน้าด่านแน่นอน ถือว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์จริงๆ ดังนั้นใครอยากลอกการบ้าน ตารางฝึกของผมช่วง 3 เดือนก่อนแข่งก็จะเป็นประมาณนี้ครับ

  • จันทร์, พุธ, ศุกร์ (วันปั๊มกล้าม): Squat 5x5, Bench Press 5x5, Bent Over Row 5x5 (สลับกับ Overhead Press 5x5, Deadlift 5x5)
  • อังคาร, พฤหัส (วันเสริมความอึดและแรงบีบ): วิ่งเบาๆ 30 นาที, Pull-up 4x5, Plate Pinch 5kg 4 เซ็ต
  • เสาร์ (วันคาดิโอ): วิ่งยาวๆ ไป 30 นาที
  • อาทิตย์ (วันแห่งการพักผ่อน): นอนอืดอยู่บ้าน

หมายเหตุ: ผมมีพื้นฐานฟิตเนสมาหลายปีแล้ว แต่เป็นสายวิ่งน้อยมาก เลยเน้นเพิ่มการวิ่งเข้ามา ใครเป็นมือใหม่จ๋าๆ อาจจะต้องปรับให้เข้ากับตัวเองนะครับ!

เปิดคลังแสง! อาวุธสำหรับมือใหม่สายประหยัด

ร่างกายพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาของ "อุปกรณ์" ที่จะพาเราไปรอดในสนามรบ ซึ่งนี่เป็นการแข่งครั้งแรก ผมเลยเน้นของถูกและดี ใช้งานได้จริงเป็นหลัก ใครอยากตามรอยก็จัดไปครับ!

  • ร้องเท้าวิ่งเทรล RUN Active Grip (700 บาท): ไอเท็มโคตรจำเป็น! ดอกยางมันจิกพื้นดีมาก ช่วยให้ยึดเกาะตอนปีนป่ายได้ดีสุดๆ
  • หมวกเปิดศีรษะ Kiprun V2 (120 บาท): เอาไว้กันแดดแยงตาตอนวิ่ง ใครจะไปคิดว่ามันช่วยได้เยอะ!
  • ปลอกแขนกัน UV (150 บาท): กันแดดก็ได้ กันหนามเกี่ยวเบาๆ ก็ดี ตอนคลานลอดลวดหนามจะได้ไม่เป็นหมาวัดกลับบ้าน
  • ถุงเท้ายาวเดินป่า MH500 (350 บาท): Must-have item สำหรับด่าน Rope Climb เลยครับ ป้องกันเชือกบาดข้อเท้าได้ชะงัดนัก
  • ถุงมือเวทเทรนนิ่ง (199 บาท): เซฟมือเราจากแผลพุพองเวลาเจอพวกด่านที่ต้องดึง ต้องโหนทั้งหลาย
  • สเปรย์กันแดด KA UV Extreme (189 บาท): เลือกแบบกันน้ำนะจ๊ะ เพราะเหงื่อออกเป็นลิตรแน่นอน แถมยังต้องลุยน้ำลุยโคลนอีก

วันพิพากษา! สรุปด่านสุดจี๊ดที่ชีวิตนี้ไม่ลืม

ผมลงแข่งแบบ Open Sprint 5K วิ่งรวมๆ 5 กิโลเมตรกับอีก 20 ด่านเบาๆ(?) บอกเลยว่ามีทั้งด่านที่ทำสำเร็จแล้วโคตรภูมิใจ และด่านที่อยากจะร้องไห้แต่ก็ต้องไปต่อ!

  • ด่านที่ประทับใจสุดๆ: Rope Climb (ปีนเชือก) ด่านนี้คือที่สุด! เพราะตอนซ้อมไม่เคยทำได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว! พอไปถึงหน้าด่านจริงๆ ก็ยืนทำสมาธิ ทบทวนเทคนิคที่ครูสอนมาแป๊บนึง แล้วรวบรวมความกล้าทั้งหมดพุ่งเข้าไปเลย ผลคือ...ทำได้เฉย! วินาทีที่ตบกระดิ่งบนยอดได้นี่คือ "ดีใจชิบหายยยย!"
Spartan Race: Rope Climb
  • ด่านที่ไม่ผ่าน (แบบเจ็บใจ): Hercules Hoist & Spear Throw
    • Hercules Hoist: ด่านยกถุงทรายหนัก 41 โล ผ่านรอกให้สูงถึง 6 เมตร...บอกเลยว่าไม่ไหว! ตัวผมหนักแค่ 60 จะไปสู้แรง 41 โลยังไงก่อน! ดึงให้ตายก็ไม่ขึ้น สุดท้ายต้องให้เพื่อนในทีมมาช่วยดึงจนผ่านไปได้ แต่ก็เล่นเอาพลังชีวิตหมดหลอดเลยทีเดียว
    • Spear Throw: ด่านปาหอกในตำนาน...สกิลการปาหอก = 0 ครับ ไม่เคยซ้อม ปาไปก็แห้วตามระเบียบ ก็รับกรรมทำ Burpees 30 ทีไปสวยๆ
  • ด่านที่ชอบเป็นพิเศษ: Multi rig & Monkey Bar สองด่านนี้มันสนุกมาก! ได้โหนตัวฟีลเหมือนทาร์ซานเข้าสิง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้แรงบีบมือ (Grip) มหาศาล ใครแรง Grip ไม่ดีมีร่วงกลางทางแน่นอน

สิ่งที่ได้เรียนรู้ (นอกจากความปวดเมื่อย)

การตัดสินใจลงแข่ง Spartan ครั้งนี้ มันสอนอะไรผมเยอะมาก อย่างแรกเลยคือ "ฟิตเนสที่เราเล่นมาตลอด มันมีประโยชน์จริงเว้ย!" มันคือพื้นฐานที่ทำให้เราเอาตัวรอดไปได้ในแต่ละด่าน ทุกครั้งที่ผ่านอุปสรรคไปได้ ผมมักจะพูดในใจเสมอว่า "กูก็เก่งนิวา" คำสั้นๆ แค่นี้แหละที่มันบูสต์ความมั่นใจให้เราลุยด่านต่อไปได้แบบไม่กลัว

นอกจากความแข็งแกร่งของร่างกายแล้ว มิตรภาพระหว่างทางก็สุดยอดมาก ทั้งเพื่อนที่เจอตอนซ้อมและคนที่เจอในสนาม ทุกคนพร้อมจะตะโกนให้กำลังใจและบอกเทคนิคกันเสมอ มันเป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ

The Movement Playground Group
The Movement Playground Team

และที่สำคัญที่สุด...มันคือความสะใจที่เราสามารถ "เอาชนะขีดจำกัดของตัวเอง" ไปได้อีกขั้น!

ครั้งแรกที่โคตรประทับใจ...และจะไม่มีวันเป็นครั้งสุดท้าย!

สรุปสั้นๆ เลยนะ...Spartan Race แม่งโคตรสนุก! หลังจากแข่งจบผมบอกกับตัวเองเลยว่า นี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน (ถ้ามีงบพอนะ ฮ่าๆ) แผนในอนาคตของผมคือจะซ้อมวิ่งให้โหดขึ้นอีก เพื่อไปลงแข่ง Sprint 5K ในรุ่น Age group หรือ Elite ให้ได้เวลาดีๆ แล้วหลังจากนั้นค่อยขยับไปลุยรุ่น Super 10K ต่อไป!

ใครที่ยังลังเลอยู่ ผมบอกเลยว่า...ลุยเถอะครับ! มันคือประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืมแน่นอน

Aroo! Aroo! Aroo!