ช่วงนี้ผมได้มีโอกาสไปร่วมอบรม OCR 101 กับทาง The Movement Playground มา เลยอยากเอาประสบการณ์และข้อมูลดี ๆ ที่ได้มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจการวิ่งผ่านอุปสรรคหรือ OCR ได้เข้าใจมากขึ้นครับ OCR ไม่ใช่แค่การวิ่งธรรมดา แต่มันคือการผสมผสานระหว่างความแข็งแรง ความคล่องตัว และจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ ซึ่งการอบรมครั้งนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในการฝึกซ้อมและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสนามจริง วันนี้ผมจะเล่าให้ฟังตั้งแต่พื้นฐาน OCR ว่าคืออะไร วิธีซ้อม อุปกรณ์ที่ควรใช้ ไปจนถึงเทคนิคการเตรียมตัววันแข่งและข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้ทุกคนได้สนุกและประสบความสำเร็จแบบไม่พลาด!

OCR คืออะไร? กติกา, รูปแบบการแข่งขัน และประเภท Obstacles

OCR หรือ Obstacle Course Racing คือการแข่งขันวิ่งผ่านสนามที่เต็มไปด้วยอุปสรรคหลากหลายรูปแบบ เช่น ปีนผนัง, โหนบาร์, คลานลอดท่อ และอื่น ๆ ที่ท้าทายทั้งความแข็งแรงและความคล่องตัว กติกาของการแข่งขันจะเน้นความยุติธรรมและความต่อเนื่องในการผ่านอุปสรรค โดยแต่ละสนามจะถูกออกแบบให้เหมาะกับระดับความสามารถของนักวิ่งแต่ละประเภท

รูปแบบการแข่งขันมีตั้งแต่ระยะสั้น 100 เมตร ไปจนถึงระยะไกลหลายกิโลเมตร และอุปสรรคที่ใช้ก็มีหลากหลาย เช่น อุปสรรคปีนป่าย, อุปสรรคที่ต้องใช้แรงจับยึด, และอุปสรรคที่ต้องใช้ความเร็วและความคล่องตัว

Spartan Race คืออะไร?

Spartan Race คือการแข่งขันวิ่งวิบาก (Obstacle Course Racing) ที่มีต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกา และได้ขยายไปจัดแข่งขันในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

spartan race thailand
Photo by: spartanracethailand facebook

ในปี 2568 Spartan Race ในไทยจะมีการแข่งขันหลายประเภทครอบคลุมทุกระดับความท้าทาย ดังนี้

  • Sprint 5K ระยะวิ่งประมาณ 5 กิโลเมตร กับอุปสรรคหลากหลาย 20 ด่าน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • Super 10K ระยะประมาณ 10 กิโลเมตร กับอุปสรรคหลากหลาย 25 ด่าน ท้าทายระดับกลาง
  • Beast 21K ระยะประมาณ 21 กิโลเมตร กับอุปสรรคกว่า 30 ด่าน เป็นระดับสูงสำหรับนักวิ่งที่ต้องการความท้าทายมากขึ้น

ซึ่งในปีนี้ผมได้ลองสมัครลงแข่ง Sprint 5K ลองดูก่อนว่าตัวเองจะผ่านได้ขนาดไหน 😄

ทำไมต้องลง OCR?

ด่านแบกถุงทรายใน Spartan Race
Photo by: bangkokbiznews

ฟิตทั้งร่างกายแบบครบทุกส่วน

OCR ไม่ได้เน้นแค่การวิ่ง แต่ยังต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการปีนป่าย, ยกของ, หรือคลาน ทำให้คุณได้ออกกำลังกายแบบองค์รวม ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ เสริมสร้างความแข็งแรง และเพิ่มความทนทานของร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ

ฝึกความแข็งแกร่งของจิตใจ

อุปสรรคต่าง ๆ ใน OCR ไม่ได้ทดสอบแค่ร่างกาย แต่ยังท้าทายจิตใจของคุณด้วย คุณจะได้เรียนรู้ที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง, จัดการกับความกลัวและความไม่แน่นอน, และพัฒนาความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะถึงเส้นชัย

สัมผัสความภูมิใจเมื่อพิชิตอุปสรรค

เมื่อคุณวิ่งผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากได้สำเร็จ ความรู้สึกภูมิใจในตัวเองจะท่วมท้น ความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและเป็นแรงบันดาลใจให้คุณกล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายอื่น ๆ ในชีวิต

ได้เจอสังคมที่สนับสนุนและกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกับเพื่อนใหม่

OCR ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่ยังเป็นโอกาสที่จะได้พบปะผู้คนที่มีใจรักในกีฬาเหมือนกัน คุณจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์, ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน, และสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืน

ทักษะหลักที่ต้องมี

ทักษะการปีนใน Spartan
Photo by: th.spartan.com

Running: การวิ่ง

การวิ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดสำหรับการแข่ง OCR คุณควรฝึกวิ่งในหลากหลายรูปแบบ ทั้งวิ่งบนพื้นราบ, วิ่งขึ้นลงเนิน, และวิ่งในสภาพพื้นผิวที่แตกต่างกัน เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในสนามแข่ง

Grip strength & Upper body: แรงจับและร่างกายส่วนบน

อุปสรรคหลายอย่างใน OCR ต้องใช้แรงจับและกำลังของร่างกายส่วนบน เช่น การโหนบาร์, ปีนเชือก, หรือปีนกำแพง การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน, หลัง, และไหล่ จะช่วยให้คุณผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้อย่างราบรื่น

Lifting & Carrying: การยกและการแบก

การยกของหนักและแบกสิ่งของเป็นส่วนหนึ่งของการแข่ง OCR คุณควรฝึกยกน้ำหนัก, แบกกระสอบทราย, หรือถือวัตถุที่มีน้ำหนัก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ

Crawling & Jumping: การคลานและการกระโดด

การคลานลอดสิ่งกีดขวางและการกระโดดข้ามอุปสรรคเป็นทักษะที่สำคัญในการแข่ง OCR คุณควรฝึกคลานในพื้นที่แคบ ๆ, กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง, และกระโดดลงจากที่สูง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความสามารถในการควบคุมร่างกาย

ควรซ้อมอะไรบ้างก่อนแข่ง

สนามฝึกซ้อมที่ The Movement Playground
สนามฝึกซ้อมที่ The Movement Playground

การเตรียมตัวสำหรับ OCR ต้องเน้นการพัฒนาความแข็งแรงแบบฟังก์ชันนอลที่จำลองการเคลื่อนไหวในสนามจริง เช่น การวิ่งบนพื้นผิวหลากหลาย, การฝึกกล้ามเนื้อด้วยท่า squats, lunges, push-ups และ pull-ups เพื่อเสริมความแข็งแรงทั้งร่างกาย นอกจากนี้ ควรฝึกความยืดหยุ่นและความคล่องตัวด้วยการยืดเหยียดและโยคะ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและช่วยให้เคลื่อนไหวได้ราบรื่น

ซึ่งอาจจะไปซ้อมที่ The Movement Playground ก็ได้เพราะทางนั้นมีสถานที่ใกล้เคียงกับสนามจริง ทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วขึ้น

รองเท้าวิ่ง, ถุงมือ, เสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่จำเป็น

รองเท้าวิ่ง OCR: ควรเลือกที่มีดอกยางลึกและเกาะพื้นดี เพื่อช่วยในการวิ่งบนพื้นผิวหลากหลายและปีนอุปสรรค แนะนำรองเท้าวิ่งเทรล

ถุงเท้าแบบยาว: ช่วยป้องกันการเสียดสีจากเชือกหรือสิ่งกีดขวาง, ป้องกันแมลงกัดต่อย, และให้ความอบอุ่นในสภาพอากาศเย็น ควรเลือกถุงเท้าที่ทำจากผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดีและแห้งเร็ว เพื่อป้องกันความอับชื้น

ปลอกแขนยาวกันแดด: เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องผิวแขนจากรังสี UV และแสงแดดแรง ๆ ในการวิ่งกลางแจ้ง ปลอกแขนกันแดดที่ดีควรทำจากผ้าระบายอากาศได้ดี, ยืดหยุ่นสูง และแห้งเร็ว เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดระหว่างแข่ง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแผลถลอกจากการเสียดสีหรือการขูดขีดกับอุปสรรคในสนาม

ถุงมือ: ช่วยถนอมมือและเพิ่มการยึดเกาะในสภาพเปียกหรือหนาว แต่ไม่ควรใช้ถุงมือหนาจนทำให้จับไม่ถนัด

เสื้อผ้า: เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าเทคนิค (technical fabric) ที่ระบายเหงื่อได้ดีและแห้งเร็ว เช่น เสื้อ compression หรือ tech top ที่ไม่รัดเกินไปแต่กระชับพอดี

อุปกรณ์เสริม: แว่นตากันแดดสำหรับป้องกันฝุ่นและแสง, นาฬิกา GPS สำหรับจับเวลาวิ่งและวัดระยะทาง, และ dry bag สำหรับเก็บอุปกรณ์หลังแข่ง

วิธีเตรียมตัววันแข่งและการวางแผนก่อนลงสนาม

  • มาถึงสนามให้เร็ว เพื่อมีเวลาทำความคุ้นเคยกับสถานที่และอุ่นเครื่องอย่างเพียงพอ
  • อุ่นเครื่อง ด้วยการวิ่งเบา ๆ และยืดเหยียดกล้ามเนื้อประมาณ 10-15 นาที
  • วางแผนการวิ่ง อย่ารีบวิ่งเร็วเกินไปตั้งแต่ต้น เพราะ OCR เป็นการวิ่งที่ต้องใช้พลังงานทั้งความแข็งแรงและความอดทน ควรแบ่งพลังให้เหมาะสม
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทั้งก่อนและระหว่างการแข่งขัน เพื่อป้องกันการขาดน้ำและตะคริว

ข้อผิดพลาดที่มือใหม่มักเจอและวิธีแก้ไข

  • ไม่ซ้อมอุปสรรคจริง ทำให้วันแข่งเจออุปสรรคแล้วตื่นเต้นจนทำผิดพลาด ควรฝึกซ้อมกับอุปสรรคจริงหรือจำลองให้มากที่สุด
  • ละเลยการยืดเหยียด เสี่ยงบาดเจ็บและเคลื่อนไหวไม่ดี ควรผสมโยคะหรือยืดเหยียดเป็นประจำ
  • เลือกอุปกรณ์ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าที่ไม่เกาะพื้น หรือเสื้อผ้าฝ้ายที่เปียกช้า ทำให้ไม่สบายตัวและลื่นล้ม
  • วิ่งเร็วเกินไปตั้งแต่ต้น ทำให้หมดแรงกลางทาง ควรแบ่งแรงและรักษาความสม่ำเสมอ

สรุปส่งท้าย

OCR ไม่ใช่แค่การวิ่งธรรมดา แต่เป็นการทดสอบความแข็งแรง ความคล่องตัว และจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ การเตรียมตัวที่ดีทั้งเรื่องการฝึกซ้อม อุปกรณ์ และการวางแผนวันแข่ง จะช่วยให้คุณสนุกและผ่านอุปสรรคได้อย่างมั่นใจ ลองเริ่มซ้อมทีละนิด แล้วคุณจะรู้ว่าความท้าทายนี้ทำให้สุขภาพดีขึ้นและชีวิตมีสีสันมากขึ้นแน่นอน!

AROO! AROO! AROO!