ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Line Thailand Developer Conference 2019 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2019 ซึ่งเป็นงานที่เข้าฟรี!!! แต่ต้องสมัครเข้าไปโดยรับแค่ 800 คน ผมคือหนึ่งในผู้โชดดีนั้น :)

ในงานนี้ได้มีการเปิดเผยข้อมูล LINE API ต่างๆ เพื่อให้ Developer เข้ามามีส่วนร่วมกับ LINE Ecosystem ทั้งหมด รวมถึงอัพเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ จากแพลตฟอร์มของ LINE สำหรับคนที่พลาดงานนี้ถือว่าน่าเสียดาย แต่ไม่เป็นไรเดียวผมจะสรุปหัวข้อที่คิดว่าโครต cool!!! มาให้อ่านกันว่ามีอะไรบ้าง

Line Scaleup

สำหรับทีมไหนที่มี Product เป็นของตัวเอง และคิดว่ามันโครตเจ๋ง และพร้อมที่จะ scale up สามารถเข้ามาปรึกษากับทาง Line ได้เลย ถ้าผ่านการพิจราณาก็จะสามารถเข้าถึง Ecosystem ของ Line ได้ทั้งหมด

ทีมไหนสนใจเข้าไปได้ที่ https://scaleup.line.me/

บูท Line Scaleup

Line Things

ใครว่า Line มีแต่ Line beacon ตอนนี้ Line ได้เปิด API ชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อให้นักพัฒนาด้าน Hardware สามารถพัฒนาอุปกรณ์มาต่างๆ มาเชื่อมต่อกับระบบ Line ได้แล้ว

ผมชอบอันนี้มากเพราะผมก็สนใจพวกอุปกณ์ IOT อยู่ คิดดูว่าอุปรณ์ในบ้านทุกอย่างสามารถควบคุม และแจ้งเตือนผ่าน Line ได้ โครต Cool!!!

OA Plus E-commerce

มันคือ Bot Plug-in ตัวใหม่ที่จะมาทำงานร่วมกับ Line office account ทำให้การขายของบน Line เป็นเรื่องง่ายขึ้น สามารถแชทแล้วออกใบยืนยันการสั่งซื้อผ่านไลน์ได้เลยทันที ลูกค้าสามารถสอบถามสินค้า แล้วตัว Bot จะเป็นตัวจัดการแสดงสินค้าแล้วให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าได้เลย

บูท OA Plus e-commerce

ซึ่งในส่วนของเจ้าของร้านก็สามารถจัดการทุกอย่างได้จากหน้าเว็บสะดวกมากๆ ใครที่มี Line office account แล้วสามารถสมัครได้เลย https://oaplus.line.biz/

มีคน Review ให้ดูแล้วสามารถดูได้จากวิดีโอด้านบนเลย

LIFF

What is LIFF?

LIFF มันย่อมาจาก Line Front-end Framework มันคือ web view ในรูปแบบ message type ของ Line ซึ่งโดยปกติเวลาเรากดปุ่ม url ในห้องแชทมันก็จะแสดงผลเว็บออกมาเต็มรูปแบบแล้วมาทับหน้าแชทเรา แต่ถ้าใช้ LIFF จะสามารถแสดงผลได้สามแบบ

การแสดงผลของ LIFF

เราสามารถเลือกการแสดงผลแบบ Compact, Tall หรือ Full ได้ และนอกจากนี้ Web app ของเรายังสามารถใช้ LIFF SDK เพื่อเข้าถึงข้อมูลของ Line user นั้นๆ ทำให้รู้ได้ว่าใครเป็นคนเปิดขึ้นมา หรือสามารถส่งข้อความกลับเข้าไปให้ห้องแชตได้ด้วย

ลองดูตัวอย่างการซื้อสินค้าที่ผู้ใช้งานไม่ต้องออกจากห้องแชทเลย

เรามาดู Use-case การใช้งานกันว่าทำอะไรได้บ้าง

ใครสนใจพัฒนาสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ https://developers.line.biz/en/docs/liff/overview/

Line login

Line login เป็นหนึ่ง API สำหรับทำระบบ Authentication ของแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงแอพพลิเคชั่นของเราได้ง่ายๆ โดยเพียงแค่มี Line account มันก็เหมือนกับพวก Facebook หรือ Google login เลย

Line login

ผมว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับแอพพลิเคชั่นของเรา ถ้าจะเพิ่ม Line login เข้ามาก็จะทำให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น เพิ่มความสะดวกกับผู้ใช้งานด้วยนะ

ใครสนใจพัฒนาสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ https://developers.line.biz/en/services/line-login/

Line notify

อยากแจ้งเตือนอะไรในเว็บแอพพลิเคชั่นของเรา ก็แจ้งมันไปยัง Line ของ user ไปเลยดิ นั้นละครับคือสิ่งที่ Line notify เป็นตัวจัดการ มันคือ API หนึ่งที่เราสามารถส่งข้อความต่างๆ ไปยังผู้ใช้งานได้โดยตรง

ใครสนใจพัฒนาสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ https://notify-bot.line.me/doc/en/

Message API

Message API เป็นชนิดของข้อความที่เราสามารถเขียนให้ Bot ตอบกลับไปหาผู้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Text, Sticker, Image หรือ Location เป็นต้น ซึ่งพวกนี้มีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือมันมีชนิดใหม่ขึ้นก็คือ Flex message

รูปแบบของ Flex message

Flex message คือรูปแบบข้อความชนิดใหม่ที่เราสามารถสร้างได้แบบ Freely เลย คืออยากจะให้มัน Layout แบบไหนก็จัดไป ทำให้ผู้พัฒนาสามารถนำส่งข้อมูลไปหาผู้ใช้งานได้ถูกต้อง และเด่นชัดขึ้นมาก

Line pay

ดูวิดิโดเอาละกันครับสำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก Line pay ฮาๆ แต่สิ่งที่ผมสนใจก็คือนักพัฒนาสามารถนำ Line pay ไปใช้งานกับแอพพลิเคชั่นของเราได้แล้ว ซึ่งถ้าเอามาใช้งานควบคู่กับ LIFF ก็จะทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องออกไปจากหน้าแชทเลย ก็สามารถซื้อสินค้าเราได้

Social API

Social API เป็น api ที่ทำให้ผู้พัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานต่างๆ ได้ เช่น LINE user IDs, display names, profile images และ status messages. โดยในตอนแรกจะรองรับแค่ Android กับ iOS แต่ในปัจจุบันได้รองรับไปถึง Unity แล้ว นั้นหมายความว่าผู้พัฒนาเกมส์สามารถเข้าไปใช้งานได้เลย เย้ๆ

สำหรับผู้พัฒนาฝั่ง iOS ตัว LINE SDK v5.0 จะรองรับ Objective-C เป็นเวอร์ชั่นสุดท้ายแล้ว หลังจากนี้จะรองรับแค่ Swift เท่านั้น อัพเกรดโค็ดตัวเองไปใช้ Swift ได้แล้ววววว

Clova

Clova friends

เป็นสินค้าตัวใหม่สุดน่ารักของ Line มันก็คือ AI Smart Speaker ที่เอาไว้ให้เราสั่งานต่างๆ ด้วยเสียง เหมือนกับพวก Amazon Echo หรือ Google home

ผมอยากจะบอกว่า คาวาอี้!!! มากๆ อยากได้กันละสิ บินไปซื้อได้เลยที่ LINE FRIENDS Store ที่ประเทศญี่ปุ่นหรือเกาหลี ฮาๆ มันยังไม่มีมาในไทยนะจ๊ะ https://clova.line.me/

Micro Front-end

สุดท้ายเจ้านี่ไม่ได้เป็น Product ของ Line แต่อย่างใด แต่มันคือสิ่งที่ Line developer กำลังศึกษา และนำมาใช้งานกับระบบของตัวเองกันอยู่มันก็คือ Micro front-end

ณ. ปัจจุบันมีการใช้งาน micro service เพิ่มมากชึ้นในฝั่งของ Back-end แต่ในฝั่ง Front-end ก็ยังคงเป็น monolith อยู่ก็เลยมีผู้คิดค้นว่าเราควรจะทำ micro service ฝั่ง Front-end ด้วยสิ แยกการทำงานไปเลย ซึ่งมันสามารถแยก scale ได้ด้วย

Micro front-end คืออะไร ผมแนะนำให้ไปอ่าน Micro Frontends คือ อะไรแล้วน่าใช้มั้ย เขาอธิบายได้ชัดเจนดี

ถ้าขี้เกียจอ่านก็ให้ลองนึกดูว่าโครงสร้างของหน้าเว็บนั้นจะมีพวก header, footer, sidebar หรือ banner เป็นต้น คิดเอาว่า

  • Header เขียนด้วย React js
  • Footer เขียนด้วย Vue js
  • Sidebar เขียนด้วย Angular js

คือมันแยกการทำงานระหว่างกันเองเลย ด้วยภาษาอะไรก็ได้ เราสามารถแยก deploy ออกจากกันได้อย่างอิสระเหมือนกับฝั่ง back-end

โดยในงานได้มีการทำ Demo (ลืมอัด demo มา) ให้ดูทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นมองเห็นเลยว่า อนาคตอันใกล้ ไม่เกิน 2-3 ปีมันมาถูกใช้ในไทยแน่ๆ แต่ถ้าถามว่า ณ. ปัจจุบันควรนำมาใช้กับงานใน production เลยไหมผมว่ายังก่อน รอให้มันมี framework รองรับและมีเครื่องมือที่ชัดเจนมากกว่านี้ก่อน แต่จะศึกษาไว้ก็ไม่เสียหาย

ศึกษาเพิ่มเติม https://micro-frontends.org/

สรุปงาน

งาน Line development conference 2019 จัดได้ดีมาก เป็นงานฟรีทุกอย่าง ฟรีตั้งแต่ ค่าเข้างาน, อาหาร และอาหารกลางวัน อิอิ และยังมีส่วนลดของ Line man taxi ให้ใช้เพื่อมางานด้วย จริงๆ หัวข้อมีมากกว่าที่ผมสรุปออกมา เพราะมันแบ่งเป็น 2 hall ให้เราเลือกเข้าช่วงบ่ายว่าจะไปฝั่งหัวข้อไหน ผมเลยสรุปเฉพาะแค่หัวข้อที่สนใจ และเข้าไปฟังมาให้อ่านกัน

ไม่น่าเชื่อว่าจากแอพพลิเคชั่นคุยกัน จะมาเป็นโครตอนาจักร Line ได้ขนาดนี้ ซึ่งต้องบอกว่าน่ากลัวสำหรับคู่แข่ง แต่น่ายิ่งดีสำหรับผู้ใช้งาน และผู้พัฒนาอย่างเราๆ ที่ผมตื่นเต้นสุดก็คงเป็น Line กระโดดลงมาเล่น IOT กับเขาแล้ว...